
เจ็ดศรัทธา-วันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7-ความหมายของการสวดบูชาเทพเจ็ดดวง-เนื้อคู่-พิธีกรรมทางศาสนา-ความปรารถนาสำเร็จ
อิจจิ มุจจิ อิจจิ
โฮคโตะคูจินจุงเท็นไดชินโชโกะคิเซ็ตสึคาบุคอนรุน 北斗九辰中天大神上朝金闕下覆崑崙 โจริโกะกิตโทเทเซค็องโกะไดไควทัมโรโกะมงโรกุซง 調理綱紀統制乾坤大魁貪狼巨門祿存 มงโคะเก็นเซ็งมุโคะพาคุนโคโชโอกุโอโงะชิมิเทคุน 文曲廉貞武曲破軍高上玉皇紫微帝君 ไดชูเท็นไคเซอิรุบิจินวะไซฟุเม็ตสึวะโฟคุฟุชิน 大周天界細入微塵何災不滅何福不臻 โวนโงะเซคิกิไนโกะวะชินเซ็งโกะจิชูยะโจริน 元皇正氣來合我身川罡所指晝夜常輪 โซคูโชะนินโฮโดคูเร็งโงะเก็นซงอีโยโงะโบโชเซ็ง 俗居小人好道求靈願尊儀永保張生 ซัมไทโคเซจินโรคุนซุนค็อกเซ็งเซ็งวะโยะวะโกะวะชินเคย์ 三台虛精六淳曲生生我養我護我身形 ไควซะคันโกะฮิงพิลโบะฮโยโซะไซคิคิโยะริเร็งซะวะฮะ 尊宰急急如律令娑婆訶
คาถาโฮคโตะคูจิน เป็นคาถาในลัทธิเต๋า ที่ใช้สวดอ้อนวอนขอพลังแห่งจักรวาลและเทพเจ้าโดยมีกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด (โฮคโตะชิชิเซอิ) เป็นศูนย์กลาง กลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ดนั้นถือเป็นกลุ่มดาวศักดิ์สิทธิ์ที่ควบคุมอายุไขและชะตาชีวิตของมนุษย์ และคาถานี้ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอพลังของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ดเพื่อขอพรเรื่องสุขภาพ อายุยืน และโชคลาภ
การแปลความหมายทีละตอนของคาถา
北斗九辰中天大神 上朝金闕下覆崑崙: หมายถึง เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องฟ้า ณ กลางกลุ่มดาวเหนือทั้งเก้า ได้ขึ้นเฝ้าสวรรค์ชั้นทองคำและปกคลุมภูเขาคุนหลุน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความยิ่งใหญ่และความศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด
調理綱紀統制乾坤 大魁貪狼巨門祿存: หมายถึง การจัดระเบียบและควบคุมสรรพสิ่งในจักรวาล โดยมีดาวฤกษ์สำคัญๆ เช่น ดาวทัมโร ดาวโกะมง และดาวโรกุซง เป็นผู้ควบคุมสวรรค์และแผ่นดิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งจักรวาลของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด
文曲廉貞武曲破軍 高上玉皇紫微帝君: หมายถึง ดาวมงโค ดาวเก็นเซ็ง ดาวมุโค และดาวพาคุน อยู่ร่วมกับองค์พระหยกได๋ (โอกุโอโงะ) และองค์จักรพรรดิซิมิ (ชิมิเทคุน) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ดกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ
大周天界細入微塵 何災不滅何福不瑧: หมายถึง พลังแห่งจักรวาลที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกหนแห่ง ตั้งแต่โลกกว้างใหญ่ไพศาลไปจนถึงฝุ่นละอองเล็กๆ สามารถกำจัดภัยพิบัติได้ทุกอย่างและนำความสุขมาให้ได้อย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงพลังอันไร้ขีดจำกัดของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด
元皇正氣來合我身 川罡所指晝夜常輪: หมายถึง พลังของจักรพรรดิองค์แรกได้รวมเข้ากับร่างกายของข้าพเจ้า และพลังของดาวฤกษ์ได้ปกป้องข้าพเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงอิทธิพลของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ดที่มีต่อบุคคล
俗居小人好道求靈 願尊儀永保張生: หมายถึง บุคคลธรรมดาที่อาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ปรารถนาที่จะแสวงหาหนทางแห่งธรรมและขอพึ่งพลังแห่งเทพเจ้า ขอให้เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติได้ปกป้องข้าพเจ้าตลอดไป ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของบุคคล
三台虛精六淳曲生 生我養我護我身形: หมายถึง พลังของกลุ่มดาวซัมไทและกลุ่มดาวโรคุนซุน ได้ให้กำเนิด เลี้ยงดู และปกป้องร่างกายของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงพลังแห่งชีวิตและพลังแห่งการปกป้องของกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด
괴작관行필보표 존재 急急如律令 娑婆訶: เป็นการขอร้องให้เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติช่วยเหลือให้บรรลุผลสำเร็จและเป็นการจบคาถาด้วยคำพูดที่ทรงพลัง
ผลของคาถา
เชื่อกันว่าการสวดคาถานี้จะได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์จากกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ด ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าคาถานี้สามารถรักษาโรค ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และช่วยให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาได้อีกด้วย
การแปลความหมายในยุคปัจจุบัน
ในสังคมปัจจุบัน คาถานี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คาถาธรรมดา แต่ยังเป็นข้อความปรัชญาที่แสดงถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของมนุษย์ที่มีต่อสุขภาพและความสุข รวมถึงความเคารพนับถือต่อจักรวาล
หมายเหตุ: ความเชื่อในด้านศาสนาและผลของคาถานั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ
เทศกาลฉีเชี่ยว (7 กรกฎาคม) วันแห่งการขอพร
เทศกาลฉีเชี่ยวเป็นเทศกาลประเพณีที่จัดขึ้นในหลายประเทศในเอเชียตะวันออก รวมถึงประเทศไทยด้วย เป็นเทศกาลที่ระลึกถึงวันแห่งการพบกันของเทพนิยายนามว่า เฉียนอู่ (เจียวนู่) และจื้อหนี่ (จี๋หนี่) ซึ่งเชื่อกันว่าหากขอพรในวันนี้จะสมหวัง
แนวคิดของพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยว
พิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยวของพุทธศาสนานั้น เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นบ้านและหลักคำสอนของพุทธศาสนา โดยใช้เรื่องราวความรักอันงดงามของเฉียนอู่และจื้อหนี่เป็นสื่อในการขอพรให้คู่สมรสมีความสุขครอบครัวอบอุ่น และเป็นโอกาสในการแสดงออกถึงเมตตาธรรมของพุทธศาสนาเพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้พบเจอกับความสุขและความสมหวัง
สิ่งที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยว
คำอธิษฐาน: เป็นข้อความที่ใช้ในการอธิษฐานขอพรจากเทพเฉียนอู่และจื้อหนี่ในเทศกาลฉีเชี่ยว และขอให้พระพุทธเจ้าประทานพรให้
คำกล่าวอธิษฐาน: เป็นข้อความที่แสดงถึงความปรารถนาให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์และพบกับความสุข
พระไตรปิฎก: การสวดพระไตรปิฎกที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลฉีเชี่ยว เพื่อฟังธรรมและชำระจิตใจ พระไตรปิฎกที่นิยมใช้ เช่น พระไตรปิฎกมหาสังคีติ พระไตรปิฎกอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นต้น
ภาพวาด: การใช้ภาพวาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลฉีเชี่ยว เช่น เฉียนอู่ จื้อหนี่ ทางช้างเผือก เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศและช่วยให้ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมจดจ่อกับการปฏิบัติธรรม
ขั้นตอนการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยว
การสักการะพระพุทธรูป: การแสดงความเคารพต่อพระพุทธเจ้าและเป็นการเริ่มต้นพิธีกรรมทางศาสนาในวันนั้น
การสวดพระไตรปิฎก: การสวดพระไตรปิฎกที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลฉีเชี่ยว
การอธิษฐาน: การขอพรจากเทพเฉียนอู่และจื้อหนี่ และขอให้พระพุทธเจ้าประทานพรให้
การกล่าวอธิษฐาน: การกล่าวอธิษฐานขอพรให้สรรพสัตว์มีความสุข
การสนทนาธรรม: ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมได้ดื่มชาและพูดคุยเกี่ยวกับธรรมะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
เหตุผลในการเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยว
ความปรารถนาให้สมหวัง: เช่นเดียวกับเรื่องราวความรักอันงดงามของเทพเฉียนอู่และจื้อหนี่ ผู้เข้าร่วมพิธีกรรมสามารถขอพรให้ตนเองได้พบเจอกับความรักและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ความปรารถนาให้ครอบครัวมีความสุข: การขอพรให้คู่สมรสมีความสุขและครอบครัวอบอุ่น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ความสงบสุขทางใจ: การฟังธรรมและการอธิษฐานช่วยให้จิตใจสงบและพบเจอกับความสงบสุข
การสร้างบุญกุศล: การขอพรให้สรรพสัตว์มีความสุขและการปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
สามารถเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยวได้ที่ไหนบ้าง?
วัดพุทธส่วนใหญ่จะจัดพิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยว ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวันและเวลาการจัดพิธีกรรมจากวัดใกล้บ้านได้
หมายเหตุ: พิธีกรรมทางศาสนาในเทศกาลฉีเชี่ยวเป็นกิจกรรมทางศาสนาพุทธ หากผู้สนใจมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพุทธศาสนาจะสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมได้อย่างมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น0